ทุกวันนี้เราอาจเห็นเทรนด์ “การโหยหาอดีต”
ตั้งแต่ความนิยมแต่งตัวแนววินเทจ
การย้อนกลับไปฟังเพลงเก่าๆ สมัยที่เราเป็นเด็ก
เทคโนโลยีสมัยคุณปู่หลายๆ อย่าง ที่กลับเริ่มกลายเป็นที่นิยมอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นกล้องฟิล์ม เครื่องเล่นแผ่นเสียง หรือเทปคาสเซตต์

อะไรเป็นสาเหตุของเรื่องนี้?

ในขณะที่โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เราเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ที่เติบโตมาในยุคที่รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยี
และทุกสิ่งทุกอย่างถูกพัฒนาเข้าสู่ระบบดิจิทัล

อย่างไรก็ตามเมื่อเราอยู่กับอะไรมากจนเกินไป ความตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านั้นย่อมจะลดลง
ที่สำคัญ ยังอาจลุกลามไปถึงความรู้สึกอยากจะหลีกหนีออกมาจากสิ่งเหล่านั้น

นั่นจึงกลายเป็นเหตุ ให้หลายๆ คน “คิดถึง” เรื่องราวในอดีต กลับไปสู่ยุคที่ยังใช้ระบบแอนะล็อก

ในมุมของธุรกิจ เราสามารถใช้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง?

เมื่อสิ่งที่ลูกค้าโหยหาคือ “อดีต”
หน้าที่ของแบรนด์ จึงเป็นการนำ “อดีต” เหล่านั้นให้หวนกลับมา
ผ่านการนำเอาคอนเซปต์สินค้าและบริการในยุคเก่า
มาผสมผสานให้เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่

เรื่องนี้นอกจากจะเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแล้ว
ยังเป็นการสร้างคุณค่าทางอารมณ์ และจิตใจ ที่จะทำให้สินค้าและบริการชิ้นนั้นพิเศษกว่าของทั่วไป

และในอีกมุมหนึ่ง ความคลาสสิกของยุคเก่า ยังสามารถจะไปตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่บางคนไม่อยากวิ่งตามกระแสหลัก
ซึ่งจะเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดคนในยุคปัจจุบัน ที่ต้องการความเป็นปัจเจกไม่เหมือนใคร

ล่าสุด “JUNGSAEMMOOL” ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ ที่ได้หยิบเอากลยุทธ์นี้มาใช้ได้อย่างน่าสนใจ

JUNGSAEMMOOL นำกลยุทธ์นี้มาประยุกต์ใช้ โดยการออกแบบเคสสีแดงสด เป็นสีแดงที่ทันสมัยแต่ก็ดูเรโทรในตัว เชื่อมโยงความความทรงจำในยุค 90’s ที่รุ่งเรื่องในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี แฟชั่น ที่ดูเรียบง่ายแต่ก็น่าตื่นตาตื่นใจ โดยออกมาขายเป็นเซ็ตกับสินค้ารุ่นยอดนิยมอย่าง คุชชั่น รุ่น Essential Skin Nuder และ Essential Skin Nuder Long Wear Cushion ที่เรียกได้ว่าครองใจสาวกบิวตี้สายเกามายาวนาน

คอนเซปต์ของแคมเปญนี้ พาลูกค้าให้ย้อนเวลากลับไปสู่ความสุขในยุค 90’s
ซึ่งเป็นยุคที่แผ่นเสียงกำลังนิยม และเป็นสินค้าสุดฮิตในสมัยนั้น

ที่พิเศษก็คือ คอลเลกชันนี้ออกแบบใช้สีแดงอันเป็นซิกเนเจอร์ของเมกอัพอาร์ทิสต์ JUNG SAEMMOOL มาเป็นตัวชูโรงได้อย่างโดดเด่น เป็นสีแดงที่ดูยูนิเซ็กซ์ที่ยุคสมัยนั้นฮิตมาก จึงดูเก๋ ไม่เชย แต่กลับช่วยดึงความกล้า มั่นใจ ตามสโลแกน Beauty Starts From You, Just Believe. ออกมาได้อย่างน่าสนใจ

ผนวกกับประสบการณ์ที่ผ่านมา คุชชั่น 2 รุ่นนี้ก็ขายดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
พอออกแพ็กเกจจิงใหม่แต่ละครั้ง ก็กลายเป็นเหมือนของสะสม ที่ขายหมดอย่างรวดเร็ว แถมครั้งนี้ยังเลือกสีเลือกสูตรได้อีกด้วย เรียกว่าได้ทั้งความเก๋ในดีไซน์ และความฟินที่ได้เป็นเจ้าของ

ซึ่งถ้าใครสนใจ ลงทุนเกิร์ลแนะนำให้รีบไปที่เคาน์เตอร์ JUNGSAEMMOOL
หรือสั่งซื้อผ่านบริการ Chat & Shop เอาไว้เลย ใครไม่สะดวกก็ซื้ออนไลน์ แต่ที่ออนไลน์จะไม่สามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์สีและสูตรได้

เอาเป็นว่า สาวกสายเกาต้องจัด เพราะรอบนี้ JUNGSAEMMOOL ใจดี จัดเซตมาให้อย่างสุดคุ้ม
“1990 Record Red Edition Set” ราคาพิเศษ 1,700 บาท จากปกติ 2,990 บาท ลดไปกว่า 43%!

โดยภายในเซตประกอบด้วย Essential Skin Nuder Cushion
หรือ Essential Skin Nuder Long Wear Cushion 1 กล่อง มูลค่า 1,400 บาท
ในกล่องมีตลับฝาสีเบจพร้อมคุชชั่น และรีฟิล 1 ชิ้น สูตรเดียวกัน

มาพร้อมกับรีฟิลอีก 1 ชิ้น มูลค่า 600 บาท
ที่สามารถเลือกได้ระหว่าง Nuder สำหรับวันเบาๆ ที่อยากได้ผิวฉ่ำ ดูสุขภาพดี
หรือ Nuder Long Wear ในวันที่ต้องการความเนี้ยบ คุมมันตลอดวัน และยังมีสีให้เลือกตามใจ แต่เค้าจะมีให้เลือกแค่ สี Fair Light / Light / Medium ใครผิวต่างจากนี้ก็อาจเลือกสีที่เอามาทำมิติได้

และปิดท้ายด้วยไฮไลต์ในเซต Red Case limited edition
เคสเปล่าสำหรับใส่ตัวรีฟิลสีแดงดำสุดร้อนแรง มูลค่า 990 บาท

เรียกได้ว่าเป็นเซตที่คุ้มค่ากับการลงทุน
ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งาน ซื้อเซตเดียว แต่แต่งได้จบครบทุกลุค ใช้ได้ทุกวัน
และยังให้คุณค่าทางอารมณ์ และจิตใจ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่อยากย้อนวันวานกลับไปสมัยยุคคลาสสิกอีกครั้ง

กลยุทธ์คราวนี้ของ JUNGSAEMMOOL
จึงเรียกได้ว่าเป็น การเปลี่ยนความทรงจำให้เป็นไอเท็มฮอตที่ขาดไม่ได้ของยุคนี้จริงๆ..
ดูสินค้า คลิก https://bit.ly/2IiTXGN