Business
เรื่องราวของสุดยอดนักธุรกิจหญิง ที่ชื่อว่า Estée Lauder
24 ต.ค. 2023
เรื่องราวของสุดยอดนักธุรกิจหญิง ที่ชื่อว่า Estée Lauder /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าพูดถึงบริษัทความงาม รายใหญ่ของโลก
เราก็คงจะนึกถึง L’ORÉAL, SHISEIDO, COTY และ Amorepacific
เราก็คงจะนึกถึง L’ORÉAL, SHISEIDO, COTY และ Amorepacific
รู้หรือไม่ ว่าทั้ง 4 บริษัทนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน..
L’ORÉAL บริษัทความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณ Eugène Schueller
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณ Eugène Schueller
SHISEIDO บริษัทความงามยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณ Arinobu Fukuhara
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณ Arinobu Fukuhara
COTY บริษัทความงามรายใหญ่จากสหรัฐฯ
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณ François Coty
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณ François Coty
Amorepacific บริษัทความงามที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณซอซองฮวาน
ก่อตั้งโดยชายที่ชื่อว่า คุณซอซองฮวาน
จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เหมือนกันนั้นก็คือ “ผู้ก่อตั้งเป็นผู้ชาย”
หลายคนอาจเริ่มเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วมีบริษัทความงามยักษ์ใหญ่รายไหน ที่ก่อตั้งโดยผู้หญิงบ้าง
บริษัทนั้นก็คือ Estée Lauder
ที่ก่อตั้งโดยหญิงสาวที่ชื่อว่า คุณ Estée Lauder นั่นเอง
ที่ก่อตั้งโดยหญิงสาวที่ชื่อว่า คุณ Estée Lauder นั่นเอง
เรื่องราวของคุณ Estée Lauder น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณ Estée Lauder และสามีของเธอได้ก่อตั้งบริษัทขึ้น ในปี 1946 ที่สหรัฐอเมริกา
แม้ว่าเธอจะไม่ได้สร้างแบรนด์นี้ขึ้นโดยลำพัง
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บทบาทของเธอเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บทบาทของเธอเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ
เรื่องราวของบริษัท Estée Lauder เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่เธอแต่งงานกับสามี และย้ายไปอยู่ที่แมนแฮตตัน ตอนนี้เองที่เธอได้เริ่มต้นธุรกิจความงามขึ้น
คุณ Estée Lauder เริ่มผลิตสกินแคร์แบบง่าย ๆ ออกมา 4 ชิ้น โดยใช้ความรู้เรื่องการผลิตสกินแคร์จากคุณลุง ที่เป็นนักเคมี
ในช่วงแรก ๆ คุณ Estée Lauder จะไปยืนขายสกินแคร์ที่ร้านทำผม เพราะเป็นแหล่งรวมตัวของผู้หญิงที่รักสวย รักงาม และค่อนข้างมีฐานะ เหมาะสำหรับการขายสินค้าประเภทความงาม
ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังไดร์ผม เธอก็จะมาอธิบายสรรพคุณของสินค้าให้ฟัง
หรือจะพูดง่าย ๆ ว่า เธอมาขายตรงนั่นเอง
หรือจะพูดง่าย ๆ ว่า เธอมาขายตรงนั่นเอง
แต่ด้วยความที่เธอผลิตสินค้าเอง ทำให้เธอรู้ว่าผู้หญิงชอบครีมแบบไหน และไม่ชอบอะไรบ้าง
สินค้าของเธอจึงเป็นที่ถูกใจคนจำนวนมาก
ไม่นานนักกิจการของเธอก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้น จนสามารถก่อตั้งเป็นบริษัทได้
สินค้าของเธอจึงเป็นที่ถูกใจคนจำนวนมาก
ไม่นานนักกิจการของเธอก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้น จนสามารถก่อตั้งเป็นบริษัทได้
หลังจากก่อตั้งบริษัทได้เพียงปีเดียว จุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เมื่อ “Saks Fifth Avenue” ห้างหรูในสหรัฐฯ ได้มาสั่งซื้อสินค้าจากแบรนด์ Estée Lauder ไปวางขายในห้าง
จุดนี้เองที่ทำให้แบรนด์ Estée Lauder กลายเป็นที่รู้จักในวงการ Luxury มากขึ้น
ในขณะเดียวกัน คุณ Estée Lauder ยังมีวิธีที่ชาญฉลาดในการแนะนำสินค้าใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า
โดยเธอจะแจก Tester ให้กับลูกค้าที่มาซื้อสินค้าที่ร้าน
โดยเธอจะแจก Tester ให้กับลูกค้าที่มาซื้อสินค้าที่ร้าน
เราอาจจะมองว่า แล้ววิธีนี้มันฉลาดตรงไหน ใคร ๆ เขาก็ทำกัน แต่จริง ๆ แล้ว วิธีนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากในสมัยนั้น เพราะคุณ Estée Lauder เป็นผู้คิดวิธีนี้ขึ้น จนทำให้หลาย ๆ แบรนด์หันมาทำตาม ๆ กัน
การแจก Tester นอกจากจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาซื้อของแล้ว ยังทำให้ลูกค้าได้ลองเปิดใจใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ และกลายเป็นการโฆษณาสินค้าทางอ้อม
ซึ่งสุดท้ายแล้ว ถ้าลูกค้าชอบ ก็จะกลับมาซื้อสินค้านั้นอีก
คุณ Estée Lauder ไม่ได้หยุดอยู่กับความสำเร็จเพียงเท่านั้น
เธอมองเห็นปัญหาว่า ผู้หญิงสมัยนั้นจะไม่ซื้อน้ำหอมให้ตัวเอง แต่จะรอให้ผู้ชายซื้อน้ำหอมมาให้ในโอกาสพิเศษ
เธอมองเห็นปัญหาว่า ผู้หญิงสมัยนั้นจะไม่ซื้อน้ำหอมให้ตัวเอง แต่จะรอให้ผู้ชายซื้อน้ำหอมมาให้ในโอกาสพิเศษ
เรื่องนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สินค้าประเภทน้ำหอมขายได้ไม่บ่อยนัก
แต่ใครจะไปคิดว่า คุณ Estée Lauder จะสามารถหาทางแก้ปัญหาของเรื่องนี้ ได้อย่างสร้างสรรค์สุด ๆ
แต่ใครจะไปคิดว่า คุณ Estée Lauder จะสามารถหาทางแก้ปัญหาของเรื่องนี้ ได้อย่างสร้างสรรค์สุด ๆ
ในปี 1953 แบรนด์ Estée Lauder ได้ปล่อยสินค้าใหม่ที่ชื่อว่า Youth-Dew ซึ่งเป็นน้ำมันสำหรับอาบน้ำ ที่ผสมน้ำหอมเข้มข้นถึง 2 เท่า
ทำให้ยอดขายน้ำหอมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากการเปลี่ยนรูปแบบของสินค้าเพียงเล็กน้อย
ในตอนนั้นบริษัทเพิ่งจะก่อตั้งมาได้เพียง 7 ปี
แต่หลังจากที่ Youth-Dew วางขาย บริษัทก็กลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท
แต่หลังจากที่ Youth-Dew วางขาย บริษัทก็กลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท
คุณ Estée Lauder ได้กลายเป็นไอคอนของหญิงสาวอเมริกัน ที่ไม่ว่าเธอจะสวมเสื้อผ้า หรือแต่งหน้าแบบไหน ผู้คนก็มักจะนิยมทำตามเธอ
เธอมักจะรู้เกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นและความงามที่ล้ำสมัย
เธอมักจะรู้เกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นและความงามที่ล้ำสมัย
นอกจากนี้เธอยังเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จเอามาก ๆ
ทำให้ผู้หญิงอเมริกันหลายคน ยกเธอเป็นต้นแบบ ทั้งบทบาทการเป็นนักธุรกิจ และการนำเทรนด์แฟชั่น
ทำให้ผู้หญิงอเมริกันหลายคน ยกเธอเป็นต้นแบบ ทั้งบทบาทการเป็นนักธุรกิจ และการนำเทรนด์แฟชั่น
ในสมัยนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ผู้หญิงจะได้รับการยอมรับในฐานะนักธุรกิจ และถ้าเราลองดูปีก่อตั้งของอีก 4 บริษัทความงาม จะเห็นว่า
SHISEIDO ก่อตั้งในปี 1872
COTY ก่อตั้งในปี 1904
L’ORÉAL ก่อตั้งในปี 1909
Amorepacific ก่อตั้งในปี 1945
COTY ก่อตั้งในปี 1904
L’ORÉAL ก่อตั้งในปี 1909
Amorepacific ก่อตั้งในปี 1945
ทั้ง 4 บริษัทนี้ เกิดขึ้นในยุคที่ผู้หญิงยังถูกมองว่า ควรเป็นแค่แม่บ้าน
และผู้ชายควรเป็นผู้นำ ทำหน้าที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว และนำชื่อเสียงมาสู่วงศ์ตระกูล
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่บริษัทเหล่านี้ จะถูกก่อตั้งโดยผู้ชาย
เพราะสมัยนั้นผู้หญิงไม่ได้มีบทบาทมากนัก
และผู้ชายควรเป็นผู้นำ ทำหน้าที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว และนำชื่อเสียงมาสู่วงศ์ตระกูล
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่บริษัทเหล่านี้ จะถูกก่อตั้งโดยผู้ชาย
เพราะสมัยนั้นผู้หญิงไม่ได้มีบทบาทมากนัก
แต่การที่คุณ Estée Lauder ก้าวมาถึงจุดนี้ได้
ก็มาจากความพยายาม และการพัฒนากิจการอยู่เสมอ
ก็มาจากความพยายาม และการพัฒนากิจการอยู่เสมอ
จากวันแรกที่เธอต้องไปยืนขายของในร้านทำผม
ตอนนี้บริษัท Estée Lauder ที่เธอสร้างมันขึ้นมากับมือ
มีมูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท
และเป็นบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 2 รองจาก L’ORÉAL เพียงบริษัทเดียว
ตอนนี้บริษัท Estée Lauder ที่เธอสร้างมันขึ้นมากับมือ
มีมูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท
และเป็นบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 2 รองจาก L’ORÉAL เพียงบริษัทเดียว
ส่วนเคล็ดลับของคุณ Estée Lauder ที่เธอเคยได้พูดไว้ก็คือ “ฉันไม่เคยฝันถึงความสำเร็จ แต่ฉันลงมือทำเพื่อให้ได้มันมา..”
—------------------------------------------------
โค้งสุดท้าย !!! ที่นั่งเหลืออีกไม่กี่ที่แล้วกับหลักสูตร "????????? ?????? ????? ???????? ??? ?????????" ที่จะทำให้คุณได้วางรากฐาน พร้อมฝึกแนวคิดการวางกลยุทธ์การทำการตลาดบน Social Media รับปี 2567 ก่อนใคร เรียนรู้เทคนิคสุด Exclusive จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารจากแพลตฟอร์ม และเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแบบใกล้ชิด อัดแน่น 4 วันเต็ม 27-28 ต.ค. และ 3-4 พ.ย. นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/LTG_MSMS
—------------------------------------------------
References:
-https://www.elcompanies.com/en/who-we-are/the-lauder-family/the-estee-story
-https://corp.shiseido.com/en/company/history/
-https://www.loreal.com/en/group/culture-and-heritage/l-oreal-history/
-https://www.apgroup.com/th/th/about-us/amorepacific/our-history/
-https://www.biography.com/business-figure/estee-lauder
-https://www.coty.com/our-story/coty-founders/francois-coty
—------------------------------------------------
โค้งสุดท้าย !!! ที่นั่งเหลืออีกไม่กี่ที่แล้วกับหลักสูตร "????????? ?????? ????? ???????? ??? ?????????" ที่จะทำให้คุณได้วางรากฐาน พร้อมฝึกแนวคิดการวางกลยุทธ์การทำการตลาดบน Social Media รับปี 2567 ก่อนใคร เรียนรู้เทคนิคสุด Exclusive จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารจากแพลตฟอร์ม และเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแบบใกล้ชิด อัดแน่น 4 วันเต็ม 27-28 ต.ค. และ 3-4 พ.ย. นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/LTG_MSMS
—------------------------------------------------
References:
-https://www.elcompanies.com/en/who-we-are/the-lauder-family/the-estee-story
-https://corp.shiseido.com/en/company/history/
-https://www.loreal.com/en/group/culture-and-heritage/l-oreal-history/
-https://www.apgroup.com/th/th/about-us/amorepacific/our-history/
-https://www.biography.com/business-figure/estee-lauder
-https://www.coty.com/our-story/coty-founders/francois-coty