
Business
สรุปตำนาน “ชาสามม้า” น้ำชาที่หลายคนเคยดื่ม แต่ไม่รู้จักชื่อ
29 มิ.ย. 2023
สรุปตำนาน “ชาสามม้า” น้ำชาที่หลายคนเคยดื่ม แต่ไม่รู้จักชื่อ /โดย ลงทุนเกิร์ล
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ธุรกิจในประเทศไทย จำนวนไม่น้อยมีจุดเริ่มต้นจาก ชาวจีนที่อพยพมาอาศัยในไทย
หนึ่งในนั้นก็คือ “ชาสามม้า” ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 86 ปี
แม้ว่าชื่อแบรนด์ อาจไม่คุ้นหูเท่าไรนัก
แต่จริง ๆ แล้ว หลายคนน่าเคยดื่มชาสามม้า โดยที่ไม่รู้ตัว ตามร้านอาหารทั้งบนห้างฯ และตามท้องตลาด
แต่จริง ๆ แล้ว หลายคนน่าเคยดื่มชาสามม้า โดยที่ไม่รู้ตัว ตามร้านอาหารทั้งบนห้างฯ และตามท้องตลาด
แล้วเส้นทางของชาสามม้าเป็นอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เรื่องราวของชาสามม้า เริ่มต้นขึ้นจาก
เด็กชายชาวจีนชื่อ “เซ็ง แซ่อุ่ย” ที่ได้อพยพหนีภัยสงคราม ติดตามคุณทวด เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย
เด็กชายชาวจีนชื่อ “เซ็ง แซ่อุ่ย” ที่ได้อพยพหนีภัยสงคราม ติดตามคุณทวด เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย
คุณเซ็งได้เริ่มต้นงานแรก ด้วยการทำงานในโรงงานยาสูบ และรับจ้างใช้แรงงานทั่วไปอยู่ในย่านเยาวราช
ผ่านไปสักพัก เขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าผู้คนในเยาวราช นิยมดื่มชากันแทบทุกบ้าน ทำให้เขาเกิดไอเดียอยากทำธุรกิจขายใบชา ที่ดูแล้วน่าจะไปได้สวย
เขาจึงนำความคิดที่ว่านี้ ไปปรึกษากับเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่ที่นับถือ ซึ่งแทบทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
“อย่าทำเลย ไปไม่รอดหรอก”
“อย่าทำเลย ไปไม่รอดหรอก”
เพราะในตลาดนี้มีเจ้าใหญ่อยู่แล้ว ถ้าเข้าไปทำธุรกิจก็มีแต่จะขาดทุน สู้คนอื่นไม่ได้ อีกทั้งยังแนะนำให้คุณเซ็ง กลับไปทำงานรับจ้างแบบเดิมจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างแน่วแน่ เขาจึงนำเงินเก็บที่มี มาเริ่มต้นธุรกิจขายใบชา
โดยเขาไปซื้อชาเป็นลังจากร้านชา มาแบ่งเป็นห่อ นำไปตระเวนขายตามที่ต่าง ๆ
ซึ่งสมัยก่อนนั้น ชุมชนแต่ละแห่งอยู่ไกลกันมาก
ประกอบกับถ้าขายในบริเวณที่คุณเซ็งอาศัยอยู่นั้น ลูกค้าก็มักจะซื้อกับคนขายที่รู้จักกัน และเป็นเจ้าประจำอยู่แล้ว ทำให้คุณเซ็งต้องขี่จักรยานออกไปไกลถึงชานเมือง
ประกอบกับถ้าขายในบริเวณที่คุณเซ็งอาศัยอยู่นั้น ลูกค้าก็มักจะซื้อกับคนขายที่รู้จักกัน และเป็นเจ้าประจำอยู่แล้ว ทำให้คุณเซ็งต้องขี่จักรยานออกไปไกลถึงชานเมือง
ในเวลาต่อมา เขาจึงเริ่มหันมาฝากขายตามร้านขายของชำต่าง ๆ แทน
แม้ช่วงแรก เขามักจะถูกเจ้าของร้านหลายแห่งบอกปฏิเสธ
แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ โดยเสนอให้เจ้าของร้านแต่ละแห่ง ลองทานใบชาของเขาดูก่อน และด้วยความที่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว
แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ โดยเสนอให้เจ้าของร้านแต่ละแห่ง ลองทานใบชาของเขาดูก่อน และด้วยความที่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว
ทำให้สุดท้าย ร้านขายของชำหลายแห่ง จึงยอมให้คุณเซ็งนำใบชามาวางขาย ซึ่งชาห่อที่ขายได้ ก็จะมีการแบ่งค่านายหน้า หรือค่าฝากขายให้แก่ร้านขายของชำด้วย
พอธุรกิจเริ่มไปได้สวย คุณเซ็งก็เริ่มนำใบชาจากจีนและไต้หวัน เข้ามาปิ้งและผสมเอง สร้างเป็นรุ่นชาเบอร์ต่าง ๆ หรือก็คือหันไปผลิตและจำหน่ายเอง เพื่อลดต้นทุนและควบคุมคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น
รวมถึงก่อตั้ง “ห้างใบชาอุ้ยปอกี่” ร้านต้นกำเนิดของ ใบชาตราสามม้า ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2480 หรือเมื่อ 86 ปีที่แล้วนั่นเอง
โดยจุดเด่นของชาสามม้าในเวลานั้น คือ ความเข้มที่สูงมาก จากการย่างไฟแก่
เนื่องจากคนสมัยนั้นนิยมสูบฝิ่น และสูบยากันมาก ซึ่งส่งผลให้ต่อมรับรสถูกทำลาย ดังนั้น ชาสามม้าจึงตั้งใจผลิตขึ้นมาให้มีรสเข้มข้นมาก ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคที่สูบฝิ่นหรือสูบยา ได้รับรู้ถึงรสและกลิ่นของน้ำชา
ผลปรากฏว่า ชาสามม้าขายดีเป็นอย่างมาก จนได้ชื่อว่าเป็นใบชารสแรง หอม เข้ม ในราคาย่อมเยา ส่งผลให้กิจการเติบโตยิ่งขึ้น จนขยับขึ้นมาทัดเทียมกับห้างชาแถวหน้าห้างอื่น ๆ ในย่านเยาวราช
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของชาสามม้า ก็คือ กลยุทธ์โฆษณา "ซื้อชาแถมกะละมัง"
ซึ่งถูกนำมาใช้ตอนที่คุณเซ็งนำผลิตภัณฑ์ชาสามม้า มาออกบูทงานจัดแสดงสินค้านานาชาติครั้งที่ 1 เมื่อปี 2506 ที่สวนลุมพินี โดยกะละมังที่ว่าก็คือ จอกชาสีขาว ซึ่งเป็นถ้วยสำหรับดื่มชาแถมให้ไป
ต้องบอกว่า กลยุทธ์ที่ว่านี้ ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนในงานเป็นอย่างดี ให้เข้ามาซื้อชาได้อย่างล้นหลาม และทำให้ชาสามม้าได้แจ้งเกิด เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง นับตั้งแต่นั้นมา
มาถึงปัจจุบัน จากห้างใบชาอุ้ยปอกี่ ก็ได้กลายมาเป็น “บริษัท ใบชาสามม้า จำกัด”
สำหรับผลประกอบการที่ผ่านมา
ปี 2563 รายได้ 85 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 86 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 84 ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 86 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 84 ล้านบาท กำไร 2 ล้านบาท
โดยมีสินค้าฮิตติดตลาด เช่น
-ใบชาเบอร์ 1 ซึ่งเป็นน้ำชาสีใสที่ถูกนำไปเสิร์ฟตามโรงแรม และเชนร้านอาหารชื่อดัง
-ใบชาเบอร์ 3 ซึ่งเป็นน้ำชาสีเข้ม ที่นิยมเสิร์ฟตามร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารทั่วไป หรือร้านขายเครื่องดื่ม ในเมนูชาเย็น หรือชามะนาว
อ่านมาถึงตรงนี้ ถือได้ว่า การจะสร้างสินค้าให้เป็นตำนานของชาสามม้า
ไม่ได้อาศัยแค่ว่า อยู่มานานกว่า 8 ทศวรรษ
ไม่ได้อาศัยแค่ว่า อยู่มานานกว่า 8 ทศวรรษ
แต่เกิดจากการสร้างสินค้าที่ดี แตกต่าง และควบคุมคุณภาพสืบทอดต่อกันมา
พร้อมกับการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจอยู่เสมอ..
--------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป เดินหน้าขยายธุรกิจหาญ เวลเนสแอนด์ฮอสพิทอลลิตี้ (HARNN Wellness & Hospitality) ครอบคลุมทั้งเวลเนสและสปาภายในประเทศและต่างประเทศในระดับ Regional สร้างให้แบรนด์ไทยเป็นที่รู้จักและสร้างความภูมิใจในระดับสากลรวมกว่า 16 สาขาทั่วภูมิภาค
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #HARNN #SCapebyHARNN
--------------------------------------------
Tag:ชาสามม้า