SF Cinema X ลงทุนเกิร์ล

“ความท้าทายของ SF ไม่ใช่คู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน หรือ App ดูหนัง Streaming แต่มันคือการแย่งชิงเวลาของผู้บริโภคที่ 1 วันมี 24 ชั่วโมง แต่เขามีตัวเลือกในการใช้เวลาไปกับสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นกว่าในอดีต” 

คุณพิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ หรือ คุณมิ้นท์​บอกกับลงทุนเกิร์ล ถึงเหตุผลที่ SF ต้องสร้างโรงภาพยนตร์ที่มอบประสบการณ์เหนือระดับ เพื่อแย่งชิงเวลาของผู้บริโภคในยุคนี้ 

โดยเธอยังเล่าต่อว่า สมัยเด็ก ๆ หลังเลิกเรียนและวันหยุด เธอจะมาทำงานสารพัดอย่างในโรงภาพยนตร์ SF ไม่ว่าจะเป็น พนักงานขายตั๋วและเดินตรวจตั๋ว ขายขนมหน้าโรงภาพยนตร์

จนเมื่อเธอเรียนจบก็มาทำงานอยู่หลายแผนกในบริษัท เช่น แผนกอิเวนต์, ประสานกับผู้ตรวจสอบ, ทำงบบริษัท, ฝ่ายบุคคล จนมาถึงฝ่ายการตลาด ที่เธอบอกว่า นี่แหละ! คือตัวตนของเธอ

ที่น่าสนใจ คือ ตลอดช่วงระยะเวลาที่อยู่ในธุรกิจโรงภาพยนตร์ 
คำถามคลาสสิก ที่เธอต้องตอบบ่อยครั้งก็คือ “โรงหนังจะถูก Disrupt ไหม”

ซึ่งเป็นคำถามตั้งแต่ยุค DVD ละเมิดลิขสิทธิ์ จนถึงยุคที่ App VDO Streaming ที่กำลังเข้าถึงทุกคน

“ถ้าบอกว่าไม่มีผลกระทบ คงโกหก เพราะมีคนที่เปลี่ยนพฤติกรรมการดูหนังในโรงภาพยนตร์ไปบ้าง แต่สุดท้าย โรงภาพยนตร์ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่มีอะไรทดแทนได้”

น่าจะเป็นจริงตามนั้น เพราะนอกจากจำนวนผู้ชมในโรงภาพยนตร์ของ SF ณ วันนี้ เกือบเทียบเท่ากับช่วงปี 2019 ที่เป็นช่วงเวลาก่อนการระบาดของโควิดแล้วนั้น

อีกสิ่งหนึ่งที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ก็คือ ตัวเราเอง เพราะทุกครั้งที่เราเข้าโรงภาพยนตร์ เราจะตื่นตากับจอขนาดมหึมา ภาพคมชัดใสกิ๊ก ระบบเสียงรอบทิศทางเสมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ เป็นอรรถรสที่เหนือชั้นกว่าการดู VDO Streaming ที่บ้านและการรับชมจากที่อื่น ๆ 

ความจริงอีกเรื่องหนึ่งที่เห็นได้ชัดและปฏิเสธไม่ได้เลยคือ ตั้งแต่อดีตจนถึงวันนี้
สิ่งที่ไม่สามารถ Disrupt โรงภาพยนตร์ได้เลย ก็คือการเป็นสถานที่แรก ๆ ที่คนเราจะใช้สร้างความผูกพันและสร้างความทรงจำดี ๆ ให้แก่กัน 

ทุกวันนี้ เชื่อว่าหลายคนอยากไปเที่ยวกับแฟน, อยากเจอเพื่อน, อยากมีกิจกรรมครอบครัว โรงภาพยนตร์น่าจะยังเป็นสถานที่แรก ๆ ที่คนจะเลือกเพื่อพบเจอและมีกิจกรรมร่วมกัน 

อย่างไรก็ตามแม้การรับชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ ยังเป็นอะไรที่ฮิต ก้าวข้ามผ่านกาลเวลา 

คุณมิ้นท์ก็ยังเลือกที่จะให้ SF อัปเกรดประสบการณ์การรับชมให้สมบูรณ์แบบกว่าเดิมขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการสร้างโรงภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เช่น 

NT First Class Cinema เก้าอี้ขนาดกว้างพิเศษที่ปรับเอนได้ มี Lounge บริการป๊อปคอร์น เครื่องดื่ม อาหารอร่อย ๆ ก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ พร้อมเทคโนโลยีจาก NT สั่งป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มให้มาเสิร์ฟระหว่างดูหนัง

ZIGMA CineStadium Presented by C2 โรงภาพยนตร์ที่เน้นเทคโนโลยีระบบภาพและเสียง พร้อมจอยักษ์ Giant Screen และที่นั่งที่ออกแบบเหมือนอยู่ใน Stadium กว้างและมีระยะห่างระหว่างแถวมากขึ้น

The Bed Cinema by Omazz® มีการนำเตียงนอนคุณภาพสูงมาอยู่ในโรงภาพยนตร์ ให้ได้นอนดูหนังแบบสบายที่สุดเท่าที่เคยมีมา

อีกทั้งเธอคนนี้ ยังเป็นผู้หญิงที่มองหาอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา ทำให้เราเห็น SF ทำอะไรฉีกกรอบธุรกิจโรงภาพยนตร์แบบเดิม ๆ อยู่บ่อยครั้ง เช่น Live Viewing at SF Cinema ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตในโรงภาพยนตร์ ที่ให้บรรยากาศเหมือนไปชมคอนเสิร์ตจริง ๆ, Drive-in Cinema กิจกรรมการดูหนังในรถส่วนตัว ฯลฯ 

โดยเธอบอกว่า ในอนาคต SF อาจจะมีโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากโรงภาพยนตร์ 
อย่างที่เธอเคยพูดไว้ในงาน SF SUPER FRIENDS ที่ผ่านมา เช่น SF x After Yum และอื่น ๆ ซึ่งพอดูจากจำนวนของพาร์ทเนอร์และผู้ร่วมงานแล้ว ทำให้เห็นว่า SF เป็นแบรนด์ที่ทุกคนรักและพร้อมสนับสนุนอยู่เสมอ

ส่วนแนวทางในการบริหาร เธอเชื่อว่า การบริการของพนักงานและการสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้กับลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ SF สร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรมนี้ 

“มิ้นท์บอกกับพนักงานเสมอว่า คนที่เข้ามาดูหนังคู่นี้ อาจเป็นเดทแรกของเขา ครอบครัวที่พาลูกมาดูหนังครั้งนี้ อาจเป็นรางวัลที่เขารับปากลูกไว้ เรามีหน้าที่ในการดูแลช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขาอยู่ในโรงภาพยนตร์ให้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดของเขา”

“และสมมติหากมิ้นท์ต้องทำ Project หนึ่ง ที่เรามองเห็นวิธีที่สามารถทำกำไรได้เยอะ แต่ต้องแลกกับความรู้สึกลูกค้าที่ติดลบ 

กลับกันถ้าทำอีกวิธีสามารถแก้ Pain Point ลูกค้าได้ แต่อาจจะต้องขาดทุนนิดหน่อย ระหว่างแก้ Pain Point ลูกค้า กับรายได้ของบริษัท มิ้นท์เลือกแก้ Pain Point ลูกค้าก่อน

เพราะความรู้สึกที่ติดลบ กู้คืนยากกว่าตัวเลขที่ติดลบ และการสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้แก่ลูกค้าเขาก็จะกลับมาใช้บริการ SF อยู่เรื่อย ๆ”

ด้วยแนวคิดนี้เอง ได้สร้างความประทับใจ ทุกครั้งที่เราไปโรงภาพยนตร์ SF ผ่านการสัมผัสคุณภาพของโรงภาพยนตร์จนถึงการบริการต่าง ๆ อีกทั้งวิธีนี้ยังค่อย ๆ สร้าง Impact ให้คนจดจำว่าวันนี้ ฉันดูหนัง ที่โรงภาพยนตร์ SF

“เมื่อก่อนคนจำแค่ว่าวันนี้ ฉันดูหนังที่ เดอะมอลล์ ท่าพระ, บางแค, เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น

แต่ไม่ได้จำว่าดูหนังผ่านโรงภาพยนตร์ในเครือ SF แต่พอเน้นเรื่องบริการและคุณภาพโรงภาพยนตร์ คนเริ่มจำว่าดูหนังกับ SF ได้เยอะขึ้น”

ทำให้เธอเลือกที่จะมุ่งมั่นให้โรงภาพยนตร์ในเครือ SF จำนวน 66 สาขา 400 โรง ต้องคอยพัฒนาและสร้างประสบการณ์ดี ๆ ทุกครั้งให้แก่ผู้ชมทั่วประเทศ 

เพราะเธอเชื่อว่า นี่แหละที่เป็น ไม้ตายสุดยอด ที่จะทำให้ SF แตกต่าง และครองใจคนรักหนังทั่วประเทศ 

ทั้งหมด เป็นการสรุปบทสนทนาราว ๆ 40 นาที ที่ลงทุนเกิร์ล ได้สัมผัสกับผู้หญิงเก่งคนนี้ และถ้าถามต่อว่า ประทับใจอะไรในตัวเธอมากที่สุด

นอกจากหน้าตาของเธอที่ดูน่ารัก สดใส เป็นผู้หญิงที่คุยสนุกแล้วนั้น ทัศนคติหรือ Mindset ของเธอ ถือเป็นสิ่งสวยงามในโลกธุรกิจยุคนี้