Amouage แบรนด์น้ำหอมสุลต่าน จากราชวงศ์โอมาน ที่เกิดจากการเป็นของขวัญพระราชา /โดย ลงทุนเกิร์ล

ถ้าในวงการคนรักน้ำหอม น่าจะเคยได้ยินชื่อแบรนด์น้ำหอม Amouage ผ่านหูกันมาบ้าง
ส่วนสำหรับคนทั่วไป แม้จะไม่คุ้นหู แต่ต้องบอกไว้ว่า Amouage เป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมหรูระดับโลก ที่น้ำหอมขวดหนึ่งขายกันในราคา หลักพันปลาย ๆ ถึงหลักหมื่นต้น ๆ เลยทีเดียว

ที่น่าสนใจไปกว่าเรื่องราคา คือ เรื่องราวของแบรนด์ โดย Amouage ได้รับฉายาว่าเป็นน้ำหอมสุลต่าน หรือน้ำหอมของกษัตริย์ เพราะมีราชวงศ์โอมาน เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของแบรนด์

เรื่องราวของ Amouage จะน่าสนใจขนาดไหน ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

หลายคนอาจยังไม่รู้จักประเทศโอมาน หรือชื่อทางการว่า รัฐสุลต่านโอมาน

ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ โอมานตั้งอยู่บนคาบสมุทรอาระเบีย มีเพื่อนบ้านเป็น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย

โอมานยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า น้ำดื่มแพงกว่าน้ำมัน เพราะเป็นประเทศทะเลทราย ที่มีแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเป็นจำนวนมาก

ทำให้โอมาน สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อย่างมหาศาล ด้วยอุตสาหกรรมการผลิตและส่งออกน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ

ซึ่งเม็ดเงินเหล่านั้น ก็ได้ถูกนำไปพัฒนาประเทศ ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างสาธารณูปโภคที่ดี รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ

ส่วนในด้านการปกครอง โอมาน มีระบอบการปกครองแบบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่ง “สุลต่าน” มีอำนาจสูงสุด

และสุลต่านแห่งโอมาน ในปัจจุบันก็คือ สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัยซัม บิน ฏอริก อาล ซะอีด

แล้วเรื่องราวของ Amouage เริ่มต้นที่ตรงไหน ?

เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากที่สุลต่านพระองค์ก่อนอย่าง “สุลต่านกอบูส บิน ซะอีด อาล ซะอีด” ได้ทำรัฐประหารพระบิดาของตน ที่ปกครองแบบอนุรักษนิยม แล้วขึ้นครองราชย์แทน เพื่อมาปกครองในแบบที่ทันสมัยกว่า

โดยเน้นการพัฒนาแบบก้าวหน้า เท่าเทียม และให้ความสำคัญกับสวัสดิการของประชาชน

ในยุคของ สุลต่านกอบูส บิน ซะอีด อาล ซะอีด นี่เอง ที่พระองค์เริ่มเปิดประเทศ และเน้นสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต จึงได้เสด็จไปเยือนประเทศต่าง ๆ

และนี่คือจุดเริ่มต้นของน้ำหอม Amouage

โดยธรรมเนียมปฏิบัติของผู้นำประเทศ จะต้องมีของฝากติดไม้ติดมือแด่ผู้นำประเทศที่ตนไปเยือน และแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนประเทศของตน

ดังนั้น ในปี 1983 สุลต่านกอบูส บิน ซะอีด อาล ซะอีด รับสั่งให้ราชเลขาส่วนพระองค์อย่าง เจ้าชาย Sayyid Hamad bin Hamoud al bu Said ก่อตั้งแบรนด์น้ำหอมหลวงขึ้นมา เพื่อเป็น “Gift of Kings” หรือของขวัญที่พระราชามอบให้กับผองเพื่อนพระราชาด้วยกัน

ซึ่งน้ำหอมรุ่นฮิตอย่าง Amouage Gold Man คือ น้ำหอมสูตรแรกของแบรนด์ ที่สุลต่านกอบูส บิน ซะอีด อาล ซะอีด ใช้เป็นของขวัญ แก่ผู้นำประเทศต่าง ๆ นั่นเอง

แล้วที่พระองค์เลือก “น้ำหอม” ให้เป็นของขวัญ เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ ก็เป็นเพราะ โอมานมีสูตรปรุงน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

โดยน้ำหอมแต่ละสูตรก็มีส่วนผสมสำคัญ ที่ล้วนเป็นวัตถุดิบเครื่องหอมจากธรรมชาติ ที่ทรงคุณค่า และหายากทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็น ยางไม้ อย่าง กำยาน มดยอบ และกฤษณา หรือจะเป็นน้ำมันหอมระเหย จากไม้จันทน์หอม หรือแม้กระทั่งวัตถุดิบจากสัตว์ เช่น น้ำมันมัสก์จากกวาง, อำพันทะเลหรืออ้วกวาฬ

นอกจากนี้ น้ำหอม Amouage ยังให้ความสำคัญกับการปรุงด้วยมือ ซึ่งถือว่าเป็นศิลปศาสตร์เฉพาะทาง ที่ประณีตบรรจง และต้องอาศัยนักปรุงน้ำหอมฝีมือดีอีกด้วย

เพราะแบบนี้เอง ปริมาณน้ำหอมที่ผลิตได้ จึงมีไม่มากนัก

โดยสิ่งที่ตอกย้ำความเป็น “น้ำหอมหลวง” ก็คือ โลโกของแบรนด์ ที่ออกแบบมาให้คล้ายกับตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์โอมาน

แถมดิไซน์ของฝาขวดน้ำหอม ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ด้ามจับของกริชแห่งโอมาน และโดมมัสยิด Sultan Qaboos Grand Mosque ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ

องค์ประกอบและรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้เอง ทำให้น้ำหอม Amouage เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ที่ได้รับเป็นของขวัญ และหลังจากนั้น ชื่อเสียงของแบรนด์ ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทำให้ราชวงศ์โอมานเห็นโอกาส จึงนำแบรนด์ Amouage มาทำเป็นธุรกิจเชิงพาณิชย์แบบจริงจังมากขึ้น และส่งน้ำหอมไปขายในตลาดโลก

โดย Amouage ได้เปิดร้านน้ำหอม นอกประเทศโอมาน แห่งแรก ในนครดูไบ ปี 2011

ซึ่งทุกวันนี้ Amouage มีร้านน้ำหอมสแตนด์อะโลนของตัวเองอยู่ 12 สาขาทั่วโลก และวางขายบนห้างสรรพสินค้าหรูกว่า 1,000 แห่ง ใน 80 ประเทศทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย หากใครสนใจน้ำหอมแบรนด์ Amouage ก็มีเคาน์เตอร์อยู่ที่สยามพารากอนด้วย

โดยกลิ่นที่ได้รับความนิยม และถูกพูดถึงบ่อย ๆ ก็อย่างเช่น Amouage Gold Man และ Amouage Reflection Man

นอกจากนี้ Amouage ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ต่อยอดออกมาจากน้ำหอมด้วย ไม่ว่าจะเป็น ครีมอาบน้ำ, โลชัน, เทียนหอม และน้ำหอมปรับอากาศ

ปัจจุบันแบรนด์ Amouage อยู่ภายใต้ SABCO Group บริษัทโฮลดิง ของราชวงศ์โอมาน ที่มีบริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท

ถ้าถามว่า Amouage ขายดีแค่ไหน ?

เรื่องนี้มีการประเมินไว้ว่า เฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2022
Amouage สามารถทำยอดขายไปได้มากกว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตมากถึง 50% เลยทีเดียว

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า องค์ประกอบ ของแบรนด์ Amouage ไม่ว่าจะเป็น-สตอรี หรือประวัติศาสตร์ความเป็นมา

-ความประณีตในการผลิต และการผลิตที่มีจำนวนจำกัด

-ศิลปะในการปรุงน้ำหอม

-ส่วนผสมที่ล้ำค่า ซึ่งผ่านการคัดสรรวัตถุดิบหายาก จากทั่วทุกมุมโลก

-แพ็กเกจจิงที่หรูหรา

ล้วนเป็นปัจจัย ที่ทำให้แบรนด์มีเอกลักษณ์ และประสบความสำเร็จในตลาด

และคงไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่า ทำไม Amouage น้ำหอมเพียงหนึ่งเดียว จากประเทศเล็ก ๆ อย่างโอมาน
ถึงกลายมาเป็นแบรนด์น้ำหอมหรู ที่ดังระดับโลกได้..

References
-https://www.amouage.com/our-story
-https://theculturetrip.com/middle-east/oman/articles/the-scent-of-oman-the-story-of-amouage-perfume/
-https://intercom.help/amouage/en/articles/5655746-about-the-house-of-amouage
-https://www.harpersbazaararabia.com/beauty/amouage-story-of-scent
-https://beautymatter.com/articles/a-conversation-with-amouage-where-legacy-meets-modernity
-https://www.thenationalnews.com/lifestyle/luxury/2021/07/29/why-fragrances-by-omans-amouage-are-among-the-most-valuable-in-the-world/
-https://www.mfa.go.th/th/content/5d5bcc1c15e39c3060009fef
-https://elle.education/en/2020/11/the-features-of-luxury-fashion/
-https://sabcogroup.com/